รีวิวหนัง Clown in a Cornfield (2025) คืนวิปลาสแห่งเคตเทิลสปริงส์

รีวิวหนัง Clown in a Cornfield (2025) คืนวิปลาสแห่งเคตเทิลสปริงส์ เป็นภาพยนตร์หนังแคนาดาปี 2025 แนวสยองขวัญ, ความลึกลับ, ระทึกขวัญ เรื่องย่อ ควินน์ เด็กสาวที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่กับพ่อในชนบทแห่งหนึ่ง ทว่าตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่นี่ก็เริ่มมีคนในเมืองถูกฆ่าตายอย่างสยดสยอง จนเธอพบว่าเป็นฝีมือของเจ้าตัวตลกเฟรนโด้ สิ่งมีชีวิตลึกลับประจำเมืองที่อาศัยอยู่ในทุ่งนาข้าวโพดที่ฟื้นคืนชีพมาฆ่าคนอีกครั้ง

Clown in a Cornfield

หนังสยองขวัญไล่เชือดเรื่องใหม่ที่สร้างมาจากนิยายแนว YA ชื่อดัง โดยนี่เป็นผลงานการกำกับเรื่องใหม่ของ Eli Craig จาก Tucker & Dale vs Evil ซึ่งสารภาพตามตรงว่าแม้หนังจะได้คำวิจารณ์ที่ดีแต่พอเราไปดูตลอดทางครึ่งแรกกลับไม่รู้สึกว่ามันจะดีอะไรขนาดนั้นเลย แทบจะตามสูตรหนังแนวนี้มากๆ
ครึ่งแรกของหนังเหมือนกำลังนั่งดูหนังไล่เชือดพื้นๆเรื่องหนึ่งฟีลหนัง netflix ที่ปูตัวละคร นางเอก กลุ่มเพื่อนที่ stereotype สุดๆ ไหนจะซีนไล่ฆ่าสองสามฉากแรกที่ยังธรรมดาไม่ได้พิเศษพิโศอะไรมาก เจ้าตัวตลกเฟรนโด้ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวอะไรขนาดนั้น คือภาพรวมมันไม่ได้แย่นะแต่ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น
ดูไปก็งงว่านิยายแนวไล่เชือดพื้นๆเรื่องนี้มันฮิตได้ยังไง จนกระทั่งพอเรื่องเริ่มพลิกกลับ ทั้งหักมุม ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในองก์ 2 ที่เริ่มเผยธาตุแท้และของดีที่มีมาตั้งแต่ในนิยาย ความสนุกแบบ non-stop จึงบังเกิดแล้วพร้อมถอนคำดูถูกภายในทันที and yes นี่ไม่ใช่แค่หนังไล่เชือดทั่วๆไป!
ความสนุกในครึ่งหลังคนละเรื่องกับครึ่งแรกอย่างชัดเจน กลายเป็นหนังไล่เชือดซ่องแตกสุดคัลท์ที่ยัดจะสรรหาทุกความบ้าบอให้ได้มากที่สุดตั้งแต่จุดหักมุม ความอิหยังวะของตัวละคร รวมถึงฉากไล่ฆ่าที่โหดมันส์ฮามากขึ้น การเล่นตลกกับความเจ็บปวดของคนโดนแทงโดนทำร้ายจนกลายเป็นความบันเทิงเริงรมณ์
แล้วพอได้คนทำ Tucker & Dale vs Evil มาก็เก็ทฟีลความตลกหน้าตายของหนังเรื่องนี้ได้ทันที การเล่นตลกกับสถานการณ์พลิกผัน ความจังหวะนรกต่างๆที่เกิดขึ้นในแบบที่ฆาตกรตัวตลกก็ไม่ทันตั้งตัว รวมถึงเวลาตัวละครโดนทำร้ายปางตายจากความโง่เง่าของตัวเอง คือคนไม่เก็ทมันก็จะไม่ขำหรอกแต่เราขำหนักมาก
แล้วธีมหลักของหนังก็น่าสนใจมากๆ มันมีความการเมืองสุดๆ เพราะมันสะท้อนแนวคิดการต่อสู้ระหว่างคนรุ่นเก่าอนุรักษ์นิยมจนเป็นไดโนเสาร์ไม่รู้จักหัดปรับตัวกับการปะทะคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีขึ้น และพอสู้ด้วยแนวคิดไม่ได้ก็ใช้ความความรุนแรงเพื่อหวังจะเอาชนะอย่างเดียว
และทำให้คิดได้ว่าเรื่องนี้จริงๆมันครบองค์ประกอบความเป็นนิยายวัยรุ่นแบบ Hunger Game, Maze Runner มากๆตั้งแต่นางเอกเป็นเด็กใหม่ในถิ่นที่ไม่รู้จัก มีพระเอกมาเป็น sidekick เคียงข้างและต้องผจญกับภัยอันตรายที่เกิดขึ้นในระบอบการปกครองแบบการเมือง แต่มันเล่าในแนวทางหนังไล่เชือดน่ะ
แล้วชอบที่ทั้งตัวนิยายและหนังมันมีความล้อขนบสูตรหนังไล่เชือดผสมหนังจากนิยายวัยรุ่น ya ของมันอีกที โดยเฉพาะการล้อวัยรุ่น stereotype พระนางและผองเพื่อนที่เซอร์ไพรส์มากๆที่ไม่คิดว่ามันจะมามุขนี้ แล้วเราว่ามันกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรื่องนี้มันน่าสนใจกว่าเรื่องอื่นๆในแนวเดียวกัน
นางเอก Final Girl อย่าง Katie Douglas น่ารักมากกกกกกกก ฟีลสาวตัวเล็กปุ๊กปิ๊กมินิซึ่งหาได้ยากในหนังไล่เชือดนะ ชอบตั้งแต่การหักสูตรให้ดูไม่ใช่สาวเวอร์จิ้นทั่วๆไป มีความเป็นสาวแมนๆห้าวๆแต่หน้าตาจิ้มลิ้มสุดๆ บทจะสู้คนก็สู้เข้าอีหญิงสุดๆ เป็นสเน่ห์และอาหารตาให้กับหนังเลยทีเดียว
รวมๆแล้อย่าปล่อยให้โปสเตอร์หนังดาษๆและ 30 นาทีแรกหลอกคุณเด็ดขาดเลย เพราะหลังจากนั้นมันจะกลายเป็นมหกรรมหนังไล่เชือดสุดคัลท์ซ๋องแตกราวกับนั่งรถไฟเหาะ แล้วพอมันสร้างจากนิยาย 3 ภาคซึ่งตัวหนังมันเหมือนสร้างจากภาคแรกที่แค่ set up เรื่องราวในอนาคตก็ยิ่งอยากให้เขาทำหนังภาคต่อออกมาเลย

คะแนน: 4/5 ดาว ติดตามรับชมหนังต่อได้ที่ : 168doonung

You may also like